เมื่อลม Content เปลี่ยนทิศจาก Telling เป็น Doing
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายคนคงเคยได้ยินคำแนะนำเกี่ยวกับการทำ Content ว่าควรทำด้วยกลยุทธ์ StoryTelling ถ้าหวังจะพิชิตใจกลุ่มเป้าหมายของคุณให้ได้ ซึ่งนั้นก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะการนำเรื่องราวมาเล่าด้วย content ว่าธุรกิจเราทำอะไร เป็นสิ่งที่เข้าใจง่าย และมีแบรนด์ดังๆ หลายแบรนด์ทั้งไทยและต่างประเทศประสบความสำเร็จจากการทำการตลาดแบรนด์ด้วย content สไตล์ StoryTelling มามากมาย
แต่เมื่อโลกหมุนอยู่ตลอดเวลาทุกอย่างก็ต้องมีเปลี่ยนแปลง แน่นอนว่าลมของกลยุทธ์ content ก็เริ่มเปลี่ยนทิศด้วยเช่นกัน เพราะหากเราสังเกตสื่อโฆษณาต่างๆ ทางทีวีในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า หลายแบรนด์เริ่มหันมาใช้กลยุทธ์ content ใหม่ที่เรียกว่า “StoryDoing” มากขึ้นเรื่อยๆ
ทำไม? StoryDoing ถึงถูกให้ความสนใจในช่วงนี้
กลยุทธ์ StoryDoing ไม่ใช่สิ่งใหม่สำหรับวงการ Brand Maker แต่อย่างไร เพราะเป็นกลยุทธ์การทำการตลาดแบรนด์ด้วย Content ที่ถูกนำมาใช้หลายสิบปีแล้ว ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งที่ช่วงนี้ถูกให้ความสนใจจากแบรนด์ต่างๆ น่าจะมาจาก ความนิยมของผู้บริโภคเริ่มที่จะเปลี่ยนไป พวกเขาเริ่มไม่เชื่อในสิ่งที่แบรนด์พูด (StoryTelling) เหมือนครั้งอดีตอีกแล้ว แต่เชื่อในความจริงใจ หรือการลงมือทำจากแบรนด์มากกว่า เพราะเป็นสิ่งที่พิสูจน์และเห็นได้ชัดเจน
ดังนั้นกุญแจของกลยุทธ์ StoryDoing ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จอยู่ที่ความ Real หรือความจริงในสิ่งที่แบรนด์หรือธุรกิจของเรา “จะทำ” และบอกเล่าออกมาด้วยมุมของ content ไปยังผู้บริโภคให้สามารถเข้าใจ และเกิดความอินไปกับวิสัยทัศน์ (สิ่งที่จะทำ) ของธุรกิจเรา โดยที่ไม่ต้องพยายามปรุงแต่งให้สวยจนรู้สึกว่า พยายามแกล้งทำอยู่ เพราะจะยิ่งทำให้ได้คะแนนติดลบจากผู้บริโภคหรือลูกค้าได้
ตัวอย่างแบรนด์ที่เห็นได้ชัดคงเป็น “Nike” แบรนด์รองเท้าชื่อดังระดับโลก ที่ไม่ได้แค่บอกให้คนเข้าใจว่า เฮ้ย! เรา “Just Do it” นะ แต่ Nike สนับสนุนให้คนลงมือทำด้วย ซึ่งเราเห็นได้จากการที่ Nike เข้ามาจัดกิจกรรมหรือเป็นสปอนเซอร์ให้กับเหล่านักกีฬา โดยล่าสุดในไทยก็คงเป็นโครงการวิ่งของคุณตูน บอดี้สแลม ที่ทำให้ผู้คนเข้าใจในสิ่งที่ Nike จะทำและทำอยู่ รวมทั้งยิ่งเพิ่มอินเนอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ในสายตาลูกค้าได้มากขึ้นเข้าไปอีก
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เมื่อเทรนด์การเสพ Content ของผู้บริโภคเปลี่ยนไป การทำธุรกิจผ่านโลกออนไลน์ด้วย Content ของเราก็ต้องเปลี่ยนตาม เพื่อให้ธุรกิจกับความต้องการทุกอย่างของผู้บริโภคสอดคล้องกันอย่างลงตัว มาถึงตรงนี้หลายคนอาจเริ่มมองว่า StoryDoing เป็นกลยุทธ์ที่น่าลอง และสนใจที่จะนำไปปรับใช้ให้เข้ากับธุรกิจของตัวเอง แต่ก็อย่าลืมว่า เราทุกคนไม่ได้ชอบ ผัดกระเพรา เหมือนกันหมด ดังนั้นธุรกิจหรือแบรนด์เราเอง ก็อาจไม่เหมาะกับสไตล์ Doing เหมือนคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการทำการตลาดด้วย content เป็นอย่างมาก เพราะการที่เราพยายามฝืนและทำออกไป ผลสุดท้ายนอกจากจะลงทุนไปโดยเปล่าประโยชน์แล้ว ผลกระทบระยะยาวด้านแบรนด์ก็อาจจะตามมาด้วย