5 ปัจจัยหลักที่ทำให้ ไอศกรีมกูลิโกะ ถึงหมด เหลือโชว์แค่ตู้เปล่าๆ ให้เราเจ็บใจ
สืบเนื่องจากกระแสสังคม ที่ทีมงาน MakeWebEasy ได้เห็นคนโพสต์/แชร์ตามหา ไอศกรีมกูลิโกะ กันอย่างมากมาย จนเริ่มทนไม่ไหวที่อยากได้ลิ้มชิมรสชาติดูบ้าง เราได้ออกตามล่าหามัน จนในที่สุดก็ทราบพิกัดที่ ไอศกรีมอยู่ แต่สิ่งที่เราไม่อยากแม้แต่จะคิด ก็เกิดขึ้น “สินค้าหมด”
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำหรับวันนี้ ด้วยการที่เราเป็น แนวหน้าทางด้านการตลาดออนไลน์ MakeWebEasy เลยขอเปลี่ยนอารมณ์ความเจ็บปวดในช่วงนี้ เป็นพลังสร้างสรรค์ มาวิเคราะห์ถึง 5 ปัจจัยหลักที่ทำให้ ไอศกรีมกูลิโกะ ถึงหมด เหลือโชว์แค่ตู้เปล่าๆ ให้เราเจ็บใจในทุกสาขาที่มันวางจำหน่ายกัน
ปัจจัยที่เรานึกถึงเป็นอันดับแรกก็ คงหนีไม่พ้น เรื่องจำนวนของสถานที่ที่มี ไอศกรีมกูลิโกะขาย และ ระยะเวลาในการเติมของ ถ้ามองดูแล้วกูลิโกะ น่าจะมีกำลังในการวางขายได้มากมายกว่านี้ แต่ทำไมถึงวางขายแค่บางร้าน และมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการทำที่ควร จนทำให้ต้องมีการจำกัดจำนวนการซื้อ แต่ถ้ามองในอีกมุมนึง นี่น่าจะเป็นแผนการตลาดที่ต้องการสร้างกระแสให้ดูเหมือนเป็นสินค้าหายาก ก็เป็นได้
2. ราคา
ด้วยราคาที่ถือว่าไม่แพงเลย จนบางคนอาจจะมองว่าถูกด้วยซ้ำ ในช่วงราคา 20-35 บาท คงไม่มีเหตุผลเลยที่จะไม่ลอง กับไอศกรีมกูลิโกะ จากญี่ปุ่น
3. แพ็กเกจ
มันสวยซะเหลือเกิน แพ็กเกจมันสวยมาก ถึงขนาดที่ใน IG หรือ Facebook ของหนุ่มๆ สาวๆ วัยรุ่น มีรูปไอศกรีมกูลิโกะอยู่เต็มไปหมด ถือเป็นกระแสที่อินสุดๆไปเลยสำหรับช่วงนี้
4. พรีเซ็นเตอร์
พิมฐา เน็ตไอดอลชื่อดัง ก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กลุ่มวัยรุ่น ตามหา และพูดกันปากต่อปาก ถึงไอศกรีมกูลิโกะ นี้ ด้วยลุคที่ดูเป็นสาวน่ารัก และมีความเป็นญี่ปุ่น คงต้องมีหนุ่มๆ ซื้อเพราะสาวพิมฐากันไม่ใช่น้อยเลย จริงมั้ย 🙂
5. สื่อสังคมออนไลน์
สื่อออนไลน์ถือเป็นตัวช่วยในการสร้างกระแส ที่สำคัญอย่างมาก ที่ทำให้คนที่อาจจะไม่ได้ชื่นชอบการทานไอศกรีม หรืออาจจะเป็นสิ่งดูธรรมดามากๆกับการนำไอศกรีมยี่ห้อใหม่เข้ามาขาย เป็นกระแสได้ขนาดนี้ นี่ละอิทธิพลของโลกออนไลน์
ใครเคยทานเเละหรือทราบเเหล่งที่มีไอศกรีมกูลิโกะตัวนี้ อย่าลืมมาร่วมกันเเชร์หรือโพสความคิดเห็นกันนะคะ ^^
ขอบคุณรูปภาพจาก : www.facebook.com/glicoiceTH/