9 วิธีทำ Marketing สำหรับเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มยอดขายให้ทะลุเป้า!
แม้ว่าปัจจุบันนี้เจ้าของธุรกิจหลายๆ คนมักจะหันไปใช้งาน Social Media ในการทำการตลาดกับลูกค้า หรือทำ Brand Awareness ในแพลตฟอร์มออนไลน์หลายแห่ง เพื่อโฆษณา และสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้ามากที่สุด แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มี “เว็บไซต์” เป็นของตนเอง จะมีความยืดหยุ่นในเรื่องการโฆษณา, การทำการตลาด หรือแม้กระทั่งการหารายได้ก็ทำได้เช่นเดียวกัน วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปรับชมกันว่า การทำการตลาดเว็บไซต์ (Web Marketing) มีกี่ประเภท และเหมาะสมกับธุรกิจแบบใดบ้าง
Display Advertising
เหมาะสมกับ : ธุรกิจขนาดกลาง – ใหญ่
สำหรับใครที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ใหญ่ๆ จะเห็นว่าบางเว็บจะมีแบนเนอร์สินค้าเป็น Animation หรือเป็นกราฟิกเคลื่อนไหว หรือเป็นภาพธรรมดาที่แสดงอยู่ด้านบน หรือด้านข้าง ซึ่งพื้นที่ส่วนนั้นก็จะเป็นการขายพื้นที่ Advertorial ให้กับลูกค้าที่มาลงแบนเนอร์นั่นเอง ซึ่งเจ้าของ Product สามารถซื้อพื้นที่แบนเนอร์เพื่อโฆษณาสินค้าได้จากเว็บไซต์ใหญ่ๆ แต่ต้องตรวจสอบ Traffic หรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์นั้นๆ ด้วยว่าจะสามารถการันตียอดผู้เข้าชม หรือยอดคนที่เห็นแบนเนอร์ของเราได้มากน้อยเพียงใด
Search Engine Marketing
เหมาะสมกับ : ธุรกิจขนาดเล็ก – ใหญ่
วิธีนี้จะเป็นการใช้สอยเครื่องมือบริหารจัดการของระบบ Search Engine ให้เข้ามามีส่วนในการนำพา Product ไปถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องมีการจ่ายค่าบริการให้กับ Search Engine ด้วย ซึ่งตัวอย่างเครื่องมือในหมวดการทำตลาดด้วยวิธีนี้ เช่น Google AdWords ที่เป็นการระบุคีย์เวิร์ดที่คนสนใจค้นหา และถ้าคำค้นหานั้นตรงกับคีย์ที่เรากำหนดไว้ Google ก็จะนำเว็บไซต์ของเราไปแสดงผลนั่นเอง หรือการซื้อ Google Ad เพื่อทำให้ติดตำแหน่งค้นหาในลำดับต้นๆ ก็ทำได้เช่นเดียวกัน
Search Engine Optimization
เหมาะสมกับ : ธุรกิจทุกขนาด และทุกประเภท
วิธีนี้เป็นวิธีทำการตลาดในรูปแบบ Organic หรือเป็นวิธีที่ธรรมชาติที่สุด และที่สำคัญคือ…ฟรี! โดยเจ้าของเว็บไซต์จำเป็นต้องสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดผู้เข้าชม ซึ่งตัวเลขของจำนวนผู้เข้าชมตรงนี้จะส่งผลถึงอันดับ Ranking เวลาค้นหาใน Google ด้วยนั่นเอง และวิธีการ SEO นี้ยังเป็นเครื่องยืนยันคำกล่าวที่ว่า “Content is king” ได้เป็นอย่างดี
Social Media Marketing
เหมาะสมกับ : ธุรกิจทุกขนาด ทุกประเภท
วิธีนี้ถือว่าใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากที่สุด เพราะแพลตฟอร์ม Social Media ที่สำคัญๆ อย่างเช่น Facebook, Instagram หรือ Twitter ล้วนมีผู้ใช้หลักล้านคน และยังเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้สามารถแบ่งปัน (Share) สินค้า, บริการ หรือคอนเทนต์ ที่ตนเองสนใจได้ทันที อีกทั้งยังมีบริการ Boost ด้วยการจ่ายเงินเพื่อเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กำหนดไว้ ทำให้สินค้าของเราผ่านตาของผู้ใช้ได้มากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
Email Marketing
เหมาะสมกับ : ธุรกิจขนาดกลาง – ใหญ่
วิธีทำการตลาดด้วยอีเมลในปัจจุบันนี้เราคงพบเห็นกันได้โดยมากหลังจากการสมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซต์หลายๆ เว็บ ซึ่งการทำการตลาดด้วย Email Marketing ส่วนใหญ่จะเป็นการส่งโปรโมชั่นมาให้ชมกัน หรือเป็นคอนเทนต์สั้นๆ โดยเจ้าของธุรกิจต้องวางแผนว่า การส่งอีเมลแต่ละฉบับต้องการที่จะสื่ออะไร หรือให้ลูกค้าได้รับสารอย่างไร
Referral Marketing
เหมาะสมกับ : ธุรกิจทุกขนาด
วิธีนี้เป็นการใช้กระแสของอินเทอร์เน็ต หรือโลกออนไลน์ในการอ้างอิงถึง Product ของเราว่ามีคุณภาพ น่าใช้งาน เพื่อทำให้เกิดกระแสการบอกต่อ หรือแนะนำให้กับคนใกล้ตัว
Affiliate Marketing
เหมาะสมกับ : ธุรกิจขนาดกลาง – ใหญ่
การทำ Affiliate Marketing ก็คือการทำให้ลูกค้า หรือผู้เข้าชมสินค้าที่เห็นแบนเนอร์โฆษณานั้นคลิกเข้ามาซื้อสินค้า หรือบริการเราได้ทันที ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเจ้าของผลิตภัณฑ์มักจะทำ Affiliate Marketing กับเว็บไซต์ที่มียอดผู้เข้าชมเยอะเพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย หรือเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์อีกทางหนึ่งด้วย
Inbound Marketing
เหมาะสมกับ : ธุรกิจขนาดกลาง – ใหญ่
วิธีการทำ Inbound Marketing นี้จะเป็นการเพิ่ม Value ให้กับเว็บไซต์ของเราเอง ด้วยการสร้างคอนเทนต์ที่สดใหม่, แปลก หรือแตกต่างออกไป ซึ่งการสร้างคอนเทนต์ดังกล่าวต้องสร้างเพื่อทำให้เว็บไซต์ของเรามีคุณค่า หรือได้รับความเชื่อมั่น และความไว้ใจจากผู้เข้าชมเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าชมเลือกเราเป็นอันดับแรกๆ และเมื่อผู้เข้าชมเกิดความประทับใจเราแล้ว ก็น่าจะปิดการขายได้ไม่ยาก
Videos Marketing
เหมาะสมกับ : ธุรกิจทุกขนาด
วิธีนี้เราคงคุ้นชินตากันดี นั่นก็คือ การทำคลิปวิดีโอโฆษณาที่เข้ามามีส่วนสำคัญมาก เพราะวิดีโอทำหน้าที่ได้มากกว่าคอนเทนต์ที่เป็นตัวหนังสือ เพราะมีทั้งภาพเคลื่อนไหว และเสียงประกอบ ซึ่งส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ผู้ที่ทำการตลาดในรูปแบบ Video Marketing ก็มีเยอะแยะมากมาย และมีความยาวของคลิปแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ก็เพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจที่แตกต่างกันด้วยว่า คลิปดังกล่าวต้องการเพียงแค่การสร้างการรับรู้ให้กับผู้ชม หรือต้องการให้ข้อมูลเชิงลึกกับผู้ชมที่สนใจจริงๆ
สำหรับวิธีการทำ Web Marketing ทั้ง 9 วิธีข้างต้นนั้นก็เป็นเพียงการอธิบายเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ และเว็บไซต์ในขณะนี้ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจว่าเราควรทำการตลาดแบบใดให้กับสินค้า หรือบริการที่เราเป็นเจ้าของอยู่ และวิธีใดน่าจะได้ผลมากกว่ากัน ลองศึกษากันดูนะครับ ส่วนท่านใดที่สนใจในการทำเว็บไซต์เป็นของตนเองเพื่อความน่าเชื่อถือ และสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูมั่นคงมากยิ่งขึ้น หรือต้องการคำปรึกษาในเรื่องการทำเว็บไซต์ หรือแผนการตลาด สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจากทีมงาน MakeWebEasy ได้ทันที เรายินดีให้คำปรึกษากับทุกท่านอย่างเต็มที่ครับ 🙂