5 ตัวการสำคัญที่ทำให้ ไม่มีใครสนใจ Fanpage คุณ
คงจะมีคนน้อยมากๆ ในยุคนี้ที่ไม่สนใจ Social Media เเละไม่เเปลกใจเลย ที่เจ้า Social Media ก็ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ มีผู้คนเข้าถึง สินค้าเเละบริการ เราได้อย่างมากมาย เเต่บางครั้งบางทีก็ไม่เข้าใจ ทำไมโพสท์ของเราถึงไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายเลย !!!
หากคุณยังไม่รู้ การที่จะดูว่าโพสต์ของเราได้รับความสนใจมากน้อยเเค่ไหน เราสามารถดูได้ง่าย ได้จากยอด Engagement ที่ทาง Facebook ได้เก็บสถิติไว้ให้เราดูอยู่เเล้ว (Engagement = คลิก Link , กด Like , Comments , Share)
เเละก็มีบทเรียนวิธีเเก้เกี่ยวกับ Engagement น้อย อยู่ 2 บทเรียนก็คือ
1. Engage น้อย เพราะค่า Reach น้อย (จำนวนคนที่เข้าถึงโพสต์นั้นๆได้) อันนี้ง่ายๆ เเปลว่า เราต้องหาทางที่จะทำให้เนื้อหาของเรา เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น
** Engage น้อย Reach น้อย = หากลุ่มใหม่
2. Engage น้อย เเต่ Reach เยอะ นั่นหมายความว่า ลูกค้าเห็นโพสต์ของเรา เเต่กลับเมินเฉย ไม่สนใจ ** ในวันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีเเก้ 5 เหตุผลที่ทำไมลูกค้าสะบัดบ๊อบใส่ ไม่มีส่วนร่วมกับโพสต์ของเรา
1. โพสต์ไม่น่าสนใจ ไม่น่าดึงดูด
ลองย้อนกลับไป ว่าบรรดาโพสต์ หรือเนื้อหาที่เราได้เขียนลงไป ว่ามันมีรูปเเบบ เเบบไหน เพราะโดยส่วนใหญ่เเล้ว บรรดาโพสต์ ที่มักไม่มีคนสนใจมักจะเป็น โพสต์ที่ยาวไปด้วย Text ไม่มีภาพประกอบ ลองปรับเปลี่ยนในส่วนนี้ เปลี่ยนเนื้อหาที่ยืดยาว ให้เป็น Infographics ที่เข้าใจง่าย หรือนำเสนอในรูป VDO ที่ทำให้โพสต์ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
2. คอนเทนท์ไม่มีคุณภาพ ไม่ดีพอ
จากหลักทฤษฎี โดยเฉลี่ยเเล้วผู้ใช้ Facebook เเต่ละคนนั้นจะใช้เวลากว่า 33 นาทีต่อวัน ในการเล่น Facbeook ซึ่งมีเวลาอยู่ไม่น้อยที่จะได้เห็นโพสต์ของเรา การที่ทำให้ผู้เห็นโพสต์ เลือกที่จะกด Like , Comments หรือเลือกที่จะ Share ซึ่ง Share เรียกได้ว่าเป็น Oscar ของวงการ Social Media ก็ว่าได้ คอนเทนท์ของเราต้องเจ๋ง เเละมีคุณภาพจริงๆ
เราควรที่จะตั้งคำถามก่อนการโพสต์ทุกครั้งว่า ทำไมคนพวกนั่นต้องมาอ่านโพสต์ของเรา ? ทำไมต้องไลค์ ? เเละดีพอที่จะเเชร์รึเปล่า ? โดยคำถามเหล่านั้นจะได้คำตอบที่ยอดเยี่ยม ก็ต้องเกิดจากการที่เราเข้าใจลูกค้ามากพอเสียก่อน
3. หรือว่าเราไม่ได้ถาม ?
การโพสต์เป็นประโยคคำถาม ถือเป็นวิธีที่ช่วยให้ธุรกิจของเราประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเเค่จะมีคนเข้ามาตอบ ในเรื่องที่เขาสนใจเเล้ว ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า เเละยังสามารถนำความคิดเห็นเหล่านั้นมาต่อยอดปรับปรุงพัฒนาสินค้าเเละบริการของเราให้ดีมากยิ่งขึ้น
*อย่าลืมว่าในโลกของ Social Media ทุกคนมีสิทธิ์อย่างเต็มที่ในการเเสดงความคิดเห็น
4. ถามเเล้ว เเต่ผิด ?
จริงอยู่ที่การตั้งคำถามเป็นการเชื้อเชิญให้คนที่สนใจตอบคำถาม เเต่มันก็ขึ้นอยู่ด้วยว่าคำถามนั้นมีความน่าสนใจ เเละเหมาะสมเเค่ไหน ถ้าหากเป็นคำถามที่ค่อนข้างส่วนตัวจนเกินไป หรือทั่วๆไปจนเกินไป ก็เป็นเรื่องยากที่ผู้คนจะเข้ามาตอบ เเละเเนะนำว่าควรจะหลีกเลี่ยงคำถามที่เเทบจะไม่เกี่ยวอะไรกับสินค้าของเราเลย ยกตัวอย่างเช่น เราทำธุรกิจเสื้อผ้าเด็กบน Facebook เเต่กลับตั้งคำถามเกี่ยวกับ สีทาบ้านว่าควรจะใช้สีไหน ดีเป็นต้น
5. ไม่มีเเรงจูงใจ
ลด เเลก เเจก เเถม เป็นวิธีที่มีมานานตั้งเเต่ กรุงศรียังไม่เเตก การสร้างความประทับใจด้วยสิทธิพิเศษ คูปองส่วนลด โปรโมชั่น การมีกิจกรรมชิงรางวัลให้ได้ร่วมสนุกกัน เป็นสิ่งที่ช่วยดึงดูดความน่าสนใจให้ลูกค้าเข้ามาร่วมสนุกกับเพจของเรามากขึ้น ยิ่งเราทำให้เขาสนุก เเละรู้สึกดีกับ Facebook ของเรามากขึ้นเท่าไร โอกาสที่จะได้ Like , Comments , Share ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ก็จบไปเเล้วกับ 5 ปัจจัยหลัก ที่ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าไม่ให้ความร่วมมือ เเต่อย่าลืมว่า หัวใจหลักของการให้ความร่วมมือ ก็คือการเข้าใจลูกค้า รู้ในสิ่งที่เขาต้องการ ก่อนที่จะสร้างคอนเทนท์ขึ้นมา หากก้าวผ่านสิ่งนี้ไปได้ โจทย์ต่อไปของเราก็คือ การใส่ใจเเละให้ความสำคัญกับพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเขามีความสงสัยในข้อมูลของผลิตภัณฑ์เรา เราก็ควรจะตอบข้อมูลให้เขารู้สึกว่าเขาสำคัญมากเเค่ไหน