E-Commerce
E-Commerce

13 คุณสมบัติ ที่เว็บไซต์ E Commerce ควรมี

สำหรับคนไทย การเริ่มต้นทำธุรกิจ เปิดร้านค้าบน Social media ถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และง่ายต่อการสร้างแบรนด์ แต่ถ้าคุณอยากให้ธุรกิจเติบโตยิ่งขึ้น การขายสินค้าบน Social media ก็อาจยังไม่เพียงพอ

หลายธุรกิจที่ต้องการขยายฐานลูกค้าออนไลน์ มักจะหันไปลงขายสินค้าบน Market Place อย่าง Shopee, Lazada หรือทำเว็บไซต์ E Commerce เพิ่มเติม เพื่อสร้างมั่นคงให้กับแบรนด์และ ทำการตลาดออนไลน์ให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

แต่การจะทำให้เว็บไซต์ E Commerce ประสบความสำเร็จได้ ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายซักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป หากคุณมีความตั้งใจจริง ธุรกิจของคุณก็ประสบความสำเร็จได้เหมือนกับแบรนด์ 4u2 Thailand และ ร้านเจ๊เล้ง

หากเป้าหมายของคุณคือความสำเร็จ บทความนี้จะทำให้คุณรู้ว่า เว็บไซต์ E Commerce ของคุณ ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง…

 

1.User-Friendly

คุณคิดว่า สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการออกแบบเว็บไซต์คืออะไร?

76% ของผู้ใช้งานเว็บไซต์ ต้องการเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย หาข้อมูลง่าย เลือกซื้อสินค้าก็ง่าย โดยผลสำรวจจาก Hubspot พบว่า ผู้ใช้งานเว็บไซต์ต้องการความสวยงามเพียงแค่ 10% เท่านั้น..

เพราะวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการออกแบบเว็บไซต์ E Commerce ก็คือ การอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้งาน หากเว็บไซต์ของเรามีความซับซ้อนมากเกินไป ก็มีโอกาสสูงที่ลูกค้าจะออกจากเว็บไซต์

ถ้าคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณใช้งานง่าย คุณต้องวางโครางสร้างเว็บไซต์ให้เป็นระเบียบ จัดหมวดหมู่สินค้าให้ชัดเจน หลังจากทำเว็บไซต์เสร็จแล้ว ลองทดสอบเว็บไซต์ แบ่งให้คนในทีม หรือคนรอบข้างใช้งานดู และนำคอมเม้นท์ที่ได้มาปรับใช้ เพื่อให้คุณได้เว็บไซต์ E Commerce ที่ใช้งานง่ายที่สุด

 

2.Mobile-Friendly Website

50% ของการชำระเงินออนไลน์มาจาก การซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านมือถือหากคุณต้องการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ เว็บไซต์ของคุณต้องเป็น Responsive Website หรือรองรับการใช้งานบนมือถือ และอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย

ข้อดีของการใช้ Responsive Website นอกจากจะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าแล้ว เว็บไซต์ที่รองรับมือถือยังส่งผลดีต่อการจัดอันดับบน Google ด้วย

 

3.ภาพประกอบเว็บไซต์ต้องคมชัด

ภาพสินค้าที่ใช้ ไม่ใช่แค่ถ่ายให้พอลงขายได้ แต่ต้องคม และชัดเจน มีความน่าสนใจ ดึงดูดความต้องการของลูกค้า เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการเห็นภาพสินค้าหลากหลายมุม และสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน รวมถึงการซูมเข้า ซูมออกก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันด้วย

ผมอยากให้ทุกคนจำไว้เสมอว่า รูปภาพ คือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการขาย ไม่ใช่ข้อความ

ถึงแม้ว่าเราต้องการภาพสินค้าที่คมชัด มีความละเอียดสูง แต่การอัพโหลดขึ้นเว็บไซต์ ก็ควรเลือกใช้นามสกุลไฟล์ที่มีขนาดเล็ก เพื่อให้ภาพบนเว็บไซต์โหลดได้เร็วขึ้น โดยผลสำรวจของ Adobe พบว่าเว็บไซต์ที่ภาพสินค้าที่ใช้เวลาโหลดนาน หรือไม่ยอมโหลด จะส่งผลให้ลูกค้าลดลงถึง 39%

เพราะฉะนั้น ภาพต้องมีความละเอียดสูง และโหลดไว!

 

4.โปรโมชั่น ข้อเสนอที่น่าสนใจ

การจัดแคมเปญโปรโมชั่น หรือกิจกรรมทางการตลาดเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อ หากเว็บไซต์ของคุณมีฟังก์ชั่นที่สามารถจัดโปรมชั่น ลด, แลก, แจก, แถมเหล่านี้ได้ก็จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสร้างยอดขายได้ไม่ยากเลย

 

5.ระบบสั่งซื้อ/ตะกร้าสินค้า

ฟีเจอร์ที่เว็บไซต์ E Commerce จะขาดไปไม่ได้ ระบบตะกร้าสินค้า หรือระบบสั่งซื้อ เป็นสิ่งที่ช่วยให้ลูกค้าของคุณสามารถซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ระบบตะกร้าสินค้าที่ดีจะต้องสามารถคำนวนราคาสินค้าได้อย่างแม่นยำ แจกแจงรายละเอียดสินค้าถูกต้อง จำนวน ราคา ส่วนลด ค่าขนส่ง และพาลูกค้าของเราไปจบที่หน้าชำระเงินได้ ครบ จบ ในที่เดียว

 

6.Search & Filter

ฟีเจอร์ Search หรือ Filter ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับเว็บไซต์ E Commerce เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าเว็บไซต์ของเรามีสินค้าอะไรบ้าง ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ลูกค้าตามหาสินค้าที่ต้องในเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น

 

7.สินค้าที่เกี่ยวข้อง

การแนะนำสินค้าที่มีความเกี่ยวข้อง หรือใกล้ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่เข้ามาช้อปในเว็บไซต์ หากคนที่เข้ามาไม่พบสินค้าที่เขาต้องการ หรือสินค้านั้นหมดสต๊อก ระบบแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จะช่วยให้คุณมีโอกาสสร้างยอดขายได้

 

8.Social Proof

Social Proof หรือการใช้บุคคลมาบอกต่อกับลูกค้า ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยโน้มน้าวลูกค้าให้กล้าตัดสินใจซื้อ อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการรีวิวสินค้านี่แหล่ะ

มีนักช้อปออนไลน์กว่า 95% ที่อ่านรีวิวสินค้า และมี 57% เลือกซื้อสินค้า หรือบริการที่มีรีวิว 4 ดาวขึ้นไป (ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น)

โดย Social Proof ที่ถูกนำมาใช้กับการตลาดนั้นจะมีอยู่ 5 ประเภทก็คือ

  1. การให้ผู้เชี่ยวชาญมายืนยัน
  2. การใช้ผู้ที่มีชื่อเสียง มาบอกเล่าสินค้า
  3. การให้ผู้ใช้งานจริงมาบอกต่อ
  4. การบอกปากต่อปาก จากคนใกล้เคียง
  5. การใช้สิ่งที่คนกำลังให้ความสนใจนำเสนอ

สำหรับประเภทนี้คุณก็จะได้เห็นได้จากโพสต์ที่มียอดแชร์เยอะๆ ที่กำลังเป็น Viral หรือร้านค้าที่มีคนต่อคิวเยอะๆ เพื่อให้ดูน่าสนใจ

 

9.ความปลอดภัยของเว็บไซต์

เพราะลูกค้าชำระเงินผ่านเว็บไซต์ของเราอยู่ตลอดเวลา ความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ธุรกิจและแบรนด์ใหญ่ๆ มักตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์ หน้าที่ของเราคือสร้างความปลอดภัยให้กับลูกค้า

การใช้ SSL หรือเว็บไซต์ที่เป็น HTTPS จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ให้ลูกค้าช้อปได้อย่างมั่นใจบนเว็บไซต์ของคุณ นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อการจัดอันดับของ Google อีกด้วย

 

10.ช่องทางการรับชำระเงิน

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เว็บไซต์ E Commerce จะขาดไปไม่ได้ การให้ความสะดวกกับลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นเว็บไซต์ของคุณต้องมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายให้ลูกค้าเลือก รับได้ทั้งบัตรเดบิต และบัตรเครดิต

ลูกค้าที่ซื้อสินค้าออนไลน์กว่า 48% เลือกชำระสินค้าด้วยบัตรเครดิต หากคุณต้องเข้าลูกค้ากลุ่มนี้ ลองอ่านบทความ Payment Gateway มันอาจช่วยให้คุณรู้จัก และเลือก Payment Gateway ที่เหมาะกับธุรกิจคุณได้

 

11.ข้อมูลการจัดส่งสินค้า

เว็บไซต์ E Commerce ที่ดีจะต้องบอกรายละเอียดของการจัดส่งสินค้า ผู้ให้บริการขนส่งเป็นใคร มีกี่ตัวเลือก ใช้เวลานานเท่าไหร่ คิดค่าขนส่งอย่างไร นอกจากนี้ มีสถิติพบว่าลูกค้าจะตัดสินใจซื้อมากขึ้น 30% เมื่อร้านค้านั้นบริการส่งฟรี

 

12.หน้าติดต่อเรา

สิ่งที่ช่วยให้เว็บไซต์ E Commerce มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดคงหนีไม่หน้าเพจ Contact us หรือ ติดต่อเรา ที่บอกรายละเอียดที่อยู่ และช่องทางการติดต่อของเราไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าอุ่นใจว่าสามารถติดต่อหาเราได้หากเกิดปัญหาขึ้น

นอกจากนี้หากธุรกิจของคุณมีหน้าร้าน หรือมีหลายสาขา การเชื่อมต่อกับ Google Map ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถไปร้านคุณได้อย่างถูกต้องอีกด้วย

 

13.นโยบายการคืนสินค้า

เป็นไปได้ที่ลูกค้าอาจไม่พอใจกับสินค้าที่ได้รับ และมาจากหลายสาเหตุ สินค้าอาจมีข้อบกพร่อง เกิดการชำรุด หรือสินค้าไม่ตรงกับที่สั่ง แน่นอนว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการก็คือการขอเปลี่ยน หรือขอเงินคืน

เว็บไซต์ E Commerce จึงควรทำนโยบายการคืนสินค้าเป็นลายลักษณ์อักษรหรือมีภาพประกอบให้ชัดเจน นโยบายยังเป็นอีกคุณสมบัติที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้า